วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นิสัยไก่พม่า



ไก่ชนพม่าเป็นไก่ชนที่มีความอ่อนไหวมาก...ข้อนี้พึงระลึกเสมอ..อ่อนไหวอย่างไร ...คำว่าอ่อนไหวในที่นี้ขออธิบายดังนี้
1. มีความฉลาดแกมโกง  ตัวเก่ง ฉลาดมากโกงมาก ...อันนี้เป็นธรรมชาติ ไก่ฉลากนิสัยย่อมแตกต่างจากไก่ปกติ กล่าวคือ เขาจะรู้ตนเองเสมอว่าเขาจะสู้หรือถอย...บางตัวถอยโดยไม่บอกกล่าว..ดังนั้นการเลี้ยงไก่พม่าต้องฉลาดเลี้ยงจะเอาอย่างไก่สายเลือดอื่นไม่ได้..ถ้าปล้ำวางยังไม่ถึงกำหนด..ห้ามวางอีก...ได้งานไม่ได้งานก็ต้องปล่อยไว้ก่อนรอจนไก่คึกสมบูรรณ์เต็มที่ค่อยวางอีก...เพราะบาดแผลภายในเราบอกไม่ได้...ว่าเจ็บปวดไหม ปล้ำวางมา 7 วันกล้ามเนื้อส่วนที่เขียวซ้ำจะหายดี แต่ยังไม่สร้างกล้ามเนื้อใหม่มาทดแทนส่วนที่เชลตายไปต้องรอสองสัปดาห์จึงจะสร้างเชลมาทดแทนสมบูรณ์ดี..ดังนั้นไก่พม่าที่ฉลาดเวลาโดนย้ำแผลเดิมเล็กน้อยก็อาจหนีได้...(ยกเว้นพวกลูกผสม) ..ดังนั้นถ้าท่านเลี้ยงพม่าเลือดสูงท่านต้องระวังเรื่องเหล่านี้ให้มากไม่เช่นนั้นท่านจะเสียไก่ตัวดี ๆ ไป...เมื่อมันหน้าแดงคึกสมบูรณ์เต็มที่ค่อยวางมันจะแสดงฝีมืออันสุดยอด...

2. ไก่พม่าอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมมากเปลี่ยนที่ เปลี่ยนอาหารเปลี่ยนคนเลี้ยงเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม...มันจะตื่นตกใจ...ดังนั้นใหม่ ๆ ควรให้เวลาเขาปรับตัวเข้ากับสถานที่และคนเลี้ยงก่อน..อย่าใจร้อน ถ้ามันคุ้นเคยสถานที่มันก็สู้ยิบตา..ดังนั้นเวลาเลี้ยงรวมกันบางตัวออกไปชนต้องเอาตัวที่เขาคุ้นเคยไปด้วย..เขาจะได้ไม่ตื่นตกใจ...มือน้ำก็ต้องคนเดิมกับคนเลี้ยง เพราะไก่จะรู้ว่าเป็นคนเดิมไหมที่สัมผัสเขา..มันเรียนรู้ของมันเอง..ไก่พม่าเมื่อเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม..อาจจะมีผลต่อพฤติกรรมขอไก่ที่เปลี่ยนไปด้วยโปรดสังเกตให้ดี
3. ไก่พม่าอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงภายในตนเอง เช่น การถ่ายขน การเจ็บป่วย หรือความไม่สมบูรณ์ใด ๆ ที่เกิดภายในตนเองจะทำให้ไก่เปลี่ยนพฤติกรรมด้วย..อย่าได้ตกใจเพราะมันเป็นพฤติกรรมเฉพาะของเขาเอง..
ดังนั้นท่านที่ชื่นชอบพม่าเก่ง ๆ ท่านต้องเข้าใจความอ่อนไหวของเขาด้วย..จะเลี้ยงเหมือนไก่ทั่วไม่ได้นะ..จะ่บอกให้
แหล่้งที่มา : ชมรมคนรักไก่

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เลือกซื้อไก่หนุ่ม (มือใหม่่)

ไก่เก่งนั้นจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ประการ คือ
- สายพันธุ์หรือเหล่าที่ดีที่เก่ง
 ลักษณะโหงวเฮ้งดี
ไก่ที่มีสายเลือดไม่ดีแม้จะมีโหงวเฮ้งดี ก็เป็นไก่ไม่เก่ง หรือเก่งได้ไม่นาน คือ จิตใจไม่ดี การซื้อไก่ที่ไม่ได้ปล้ำดูเขาเรียกว่า ไก่เปลือก โอกาสที่จะได้ไก่เก่งนั้นค่อนข้างยาก วิธีการเลือกซื้อไก่รุ่นหนุ่ม รุ่นกระทง มีดังนี้
1. ไก่ฝูง เลือกซื้อไก่ที่เป็นจ่าฝูง และมีร่องรอยการต่อสู้มาตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะถ้าไม่เก่งคงไม่ได้เป็นจ่าฝูง
2. ดูโหงวเฮ้ง ลักษณะไก่เก่งๆสามารถดูลักษณะโหงวเฮ้งตามตำราไก่เก่งมีดังนี้
 -ใบหน้า ใบหน้ายาวคล้ายนกยูง คางรัดไม่มีเหนียง ตุ้มหูเล็ก ตาเรียวเล็กสดใส ขอบตานูน กระหม่อมรัดมีรอยไขหัว ปากไม่ยาวไม่สั้นเกินไปมีร่องน้ำและไม่งองุ้มมาก หน้าหงอนบางกลางหงอนสูงปลายหงอนกดกระหม่อม เลยตาดำยิ่งดี ลำคอใหญ่ กระดูกปล้องคอถี่
- ลำตัว จับสวย กระดูกโครงสร้างดี อกไม่คด น้ำขนสวย ขนไม่กรอบ หางพัดยาว และหางมีลักษณะคล้ายฟ่อนข้าว
- ปั้นขา ใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ- แข้ง มักเป็นไก่แข้งกลม แข้งเล็ก อย่างคำโบราณที่ว่า "นกแข้งใหญ่ ไก่แข้งเล็ก" ท้องแข้งอิ่มคล้ายลำหวาย ส่วนไก่แข้งเหลี่ยมที่เก่งก็มีแต่ท้องแข้งต้องอิ่ม มักเป็นไก่ลำโต ตีเจ็บ นอกจากนี้เวลาจับไก่ตรงกลางลำตัวแล้วยกขึ้น ให้สังเกตดูถ้าแข้งและนิ้วทั้งหมดของมันเหยียดตรง ถือว่าเป็นไก่ตีแม่น ยิ่งแข้งทั้งสองเหยียดชิดกัน บางตัวเหยียดทับกัน ยิ่งบ่งบอกให้รู้ว่าไก่ตัวนั้นตีแม่น ตีเจ็บ- เกล็ด เกล็ด 2 แถวตลอด หรือเกล็ดปัดตลอด ไม่มีแตกไม่มีแซม
- เกล็ด 3 แถวตลอด หรือเกล็ดพยาครุฑ
- เกล็ดกำไล โดยเฉพาะเกล็ดกำไลคาดตรงเดือย ยิ่งมีทั้งสองข้างยิ่งดี
- เกล็ดกากบาท ที่ตรงเดือย
- เกล็ดบัวหลัง เกล็ดบัวหลังต่ำกว่าเดือย ยิ่งเกล็ดบัวหลังแตกยิ่งดีใหญ่
- เกล็ดก้อยแตก มักเป็นไก่ตีเจ็บ
- เกล็ดนิ้วกลาง ถ้ามีแตก มีแซมมักเป็นไก่ตีเจ็บ ส่วนนิ้วอื่นๆไม่ค่อยแน่นอน
- เกล็ดเม็ดข้าวสารและเกล็ดสังวาลย์ เป็นแถว เป็นแนว เป็นระเบียบดี
อื่นๆก็มี ดูท่วงทีการเดินการยืน ไก่ที่เก่งมักจะยืนเป็นสง่า มีราศี ชูคอ หัวปีกยก และมักเล่นสร้อยหรือสะบัดสร้อยอยู่ตลอดเวลา เสียงขันไก่เก่งมักขันเสียงใหญ่ เสียงดังและสั้น หรือห้วนๆ เช่นโบราณว่า "ขันกระชาก หางลากดิน"

ลักษณะไก่หนุ่ม พันธุ์ต่างๆ

 






ขอขอบคุณ : ไก่ชนดอทคอม

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับ ตำราดูเกล็ด เกล็ดหน้า-เกล็ดหลัง--ไก่เด็ด


เคล็ดลับ ตำราดูเกล็ด เกล็ดหน้า เกล็ดหลังนับอย่างไร ? มีคุณมาก มีคุณน้อย เกล็ดก้อยไก่ชน เกล็ดแซมข้างเดียว ปีกด่าง - ขนดอก เดือยดำข้าง - ขาวข้าง ตีแม่นไม่แม่น นับอย่างไร วัดอย่างไร ? ผลดี ผลร้าย ให้คุณ หรือให้โทษ !?
ถ้าดูอย่างอื่นไม่ออก ให้ดูเกล็ดประกอบเป็นส่วนช่วย
ข้อ 1. นิ้วยาวได้กำหนด นับเกล็ดได้ 21 ขึ้นเป็นฤกษ์ดี เป็นเกล็ดนิ้วกลาง ตกสองพยางค์เลิศล้ำไก่เก่ง หมายความว่า เป็นไก่ชนสกุลรักเดิมพัน ตีชนกับใครมักชนะมากกว่าแพ้ แม้เป็นรองก็พลิกกลับเอาชนะได้ เมื่อมีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสียเป็นสิ่งคู่กัน คือ สิ่งสำคัญอย่าประมาท อย่าเห็นว่ามีดีแล้วจะแพ้ไม่เป็น แพ้ได้ถ้าไม่มีความพร้อม พร้อมหนึ่ง ดูแลเอาใจใส่ให้กำลังใจเมื่อใกล้ชิด พร้อมสอง สุขภาพร่างกายฐานแรก ความสำเร็จ หมั่นการฟิตซ้อม พร้อมเมื่อถึงเวลา พร้อมสาม มือน้ำผู้รู้ใจแก้ไขเมื่อมีปัญหาสามรู้คู่วิชานำมาแห่งชัยชนะ
ข้อ 2. เกล็ดหลังนิ้วก้อย เกล็ดน้อยแต่มีพลังเป็นอาวุธ ยุทโธประการ ประมาณนั้นไซร้ ดุจช้างสารบางสถานการณ์พลิกผันทิ่มแทงเล็บประหนึ่งเดือย เกล็ดหลังพลังมาก นับได้ 8 เป็นแสนดี ตำรากล่าวร้อยวาที ฤทธิเดชนี้ เล็บก้อยเอย ความหมาย อีกลักษณะไก่ดีมีสกุล เกล็ดก้อยหลังนับเรียงกันให้ได้ 8 สรรพคุณ ตำราโบราณกล่าวว่า เป็นไก่ชนปอดใหญ่ ใจโต กำลังดี สู้ได้นาน อึดทนเหนื่อยช้าดีกว่าไก่พันธุ์อื่น ยืนมั่นคง แข็งแรงดี
ข้อ 3. เปิดตำราสูตรใหญ่ปู่ตูม ทำนาย หาไก่ตีแม่น วิธีง่ายๆให้เอาเส้นไม้กวาดทางมะพร้าวหรือวัสดุอื่นก็ได้ วัดข้อนิ้วเท้า-นิ้วกลางไก่ชน วัดจากข้อพับนิ้วโคนสุดบนไปจรดปลายเล็บยาวเท่าไร ให้วัดจากที่เดิมตรงข้อพับนิ้วบนสุด วัดขึ้นไปบนแข้ง ข้อพับบน (คือ ข้อขาบน) วัดแล้วยาวสุดที่ตรงไหน ให้ทายว่าตามตำราดังนี้
3.1 วัดได้เสมอกลางแข้ง ไม่ดีตีไม่แม่น ภาษาไก่เรียกว่ายกโกหก คือ ยกผิดยกถูก
3.2 วัดได้เหนือกลางแข้งขึ้นไปเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าวัดได้ถึงข้อพับบนจรดขนข้อพับ ตำราว่าดีนัก ตีแม่น แทงแม่น เรียกว่า ยกถูก ยกดี ยกชัย คือ ยกไม่ฟาล์ว
ข้อ 4.ไก่ต้องห้ามตำราเกล็ดแซม
เกล็ดหลับ
4.1 เกล็ดแซมข้างเดียวไม่ดี เรียกว่าเกล็ดเสนียดตา
4.2 ข้อดี ถ้าเป็นสองข้าง แซมเหมือนกันไม่เสียไม่หาย คุ้มกันได้
ข้อ 5. ไก่ชนปีกขาว ปีกสีดอก ข้างเดียวไม่ดี เรียกว่าปีกขาว-ปีกดอกเสนียดตาเซียน
5.1 ข้อดี ถ้ามีเหมือนกันสองข้าง ไม่เสีย ไม่หายคุ้มกันได้
ข้อ 6. ไก่ชนเดือยดำข้าง ขาวข้างไม่ดี เรียกว่าเป็นเดือยเสนียดตา
6.1 ข้อดีถ้ามีทั้งสองข้างเหมือนกัน ไม่เสียหายคุ้มกันได้
ข้อ 7. เกล็ดดี เกล็ดร้าย เกล็ดไก่มงคล ข้อดีของเกล็ด เกล็ดใดก็ตาม ผุดขึ้นที่ใด แข้งใด ไก่สกุล สองแข้ง สองนิ้วเหมือนกัน
ขอขอบคุณ : ฟาร์มไก่ดอทคอม


วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การเลี้ยงไก่ให้ได้ผลดี

ในการเลี้ยงไก่พื้นเมืองที่จะให้ได้ผลผลิตดีนั้น มีสิ่งที่จะต้องคำนึงถึง ดังนี้
โรงเรือนหรือเล้าไก่ ต้องมีโรงเรือนหรือเล้าให้ไก่นอน มีหลังคากันแดดกันฝนได้ ไม่ควรเลี้ยงไก่ไว้ใต้ถุนบ้าน เพราะนอกจากจะไม่ถูกสุขลักษณะแล้ว คนบนเรือนจะถูกไรไก่รบกวนอีกด้วย เกษตรกรสามารถทำเล้าไก่แบบง่าย ๆ ได้เอง โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ แฝก จาก ฯลฯ สถานที่ตั้งของเล้าไก่ ควรให้ห่างจากตัวบ้านพอสมควรและอยู่ในที่ดอนไม่ชื้นแฉะ ไม่ควรอยู่ใกล้ต้นไม้ เพราะไก่ชอบนอนบนต้นไม้จะไม่เข้าไปนอนในเล้า พื้นเล้าอาจจะปูด้วยแกลบหรือขี้เลื่อยหรือฟางแห้งหนาอย่างน้อย 4 ซ.ม. และต้องเปลี่ยนวัสดุรองพื้นทุก ๆ 3 เดือนให้หนาเท่าเดิมอยู่เสมอ
1. เล้ากว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร เลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ได้ ประมาณ 30-40 ตัว เล้ากว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร สูง 1 เมตร เลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ได้ประมาณ 6-8 ตัว ควรมีกรงไก่ขนาดเล็กอีก 2 กรง คือกรงหรือสุ่มสำหรับเลี้ยงแม่ไก่กับลูกอ่อน 1 กรงหรือสุ่ม สำหรับเลี้ยงไก่เล็ก 1 กรงรางน้ำ ต้องมีรางน้ำสำหรับน้ำสะอาดให้ไก่กิน อาจใช้รางไม้ไผ่ผ่าครึ่งก็ได้
2. รางอาหาร ควรมีรางสำหรับให้อาหารไก่ เพราะการให้ไก่จิกกินอาหารบนพื้นดินทำให้ไก่เป็นโรคพยาธิได้ง่าย
ขนาดราง :ไก่ใหญ่ 10 ตัว ใช้รางยาว 1 เมตร
ไก่รุ่น 10 ตัว ใช้รางยาว 50 เซนติเมตร
ไก่เล็ก 10 ตัว ใช้รางยาว 20 เซนติเมตร
3. รางใส่กรวดและเปลือกหอยป่นผสมเกลือป่น ไก่ทุกขนาดต้องกินกรวดและเปลือกหอยเพื่อนำไปสร้างกระดูกและเปลือกไข่ กรวดและเปลือกหอยต้องตั้งทิ้งไว้ให้กินตลอดเวลา
4. รังไข่ ปกติแม่ไก่พื้นเมืองจะไข่ในรังไข่เมื่อไข่ได้ 10-12 ฟองจึงจะเริ่มฟักต้องมีจำนวนรังไข่เท่ากับจำนวนแม่ไก่ที่ไข่เพื่อไม่ให้ไก่แย่งกัน ขนาดรังไข่กว้างและยาว 1 ฟุต สูง 8 นิ้วฟุต หรือใช้เข่งก็ได้รองด้วยหญ้าหรือฟางแห้งให้ถึงครึ่งควรตั้งรังไข่ให้อยู่ในที่มิดชิด ไม่ร้อนเกินไป ฝนสาดไม่ถึง แต่แม่ไก่เดินเข้าออกสะดวก
5. ม่านกันฝน ด้านที่ฝนสาดหรือแดดส่องมาก ๆ ควรมีม่านผ้าใบ กระสอบ หรือเสื่อเก่า ๆ ห้อยทิ้งไว้โดยเฉพาะมุมที่วางรังไข่
6. คอนนอน สำหรับให้ไก่นอน ควรจะพาดไว้มุมใดมุมหนึ่งของเล้า คอนนอนควรเป็นไม้กลมดีกว่าไม้เลี่ยมซึ่งไก่จะจับคอนนอนได้ดีและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลที่หน้าอกไก่อีกด้วย

แหล่งที่มา : ไก่ชนดอทคอม
ขอขอบคุณ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต