วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การดูบาดแผลและการแก้ไข

การดูบาดแผลของไก่สามารถดูจากจุดใหญ่ของส่วนมากที่ไก่ตีกัน จะมีดังนี้ 
แผลตีตัว จะเป็นแผลที่เจ็บลึกจะสังเกตได้ บริเวณผิวหนังที่ถูกตี ส่วนมากไก่ที่ถูกตีจะแสดงอาการออกให้เห็นชัดเจน คือ ล้ม ชัก ยุบ ขนพอง ไม่เคลื่อนไหวตัว เดินแสดงอาการเจ็บปวด การตีตัวตีได้หลายที่ เช่น
ตีหน้าอก หรือที่เรียกว่าตีสามเหลี่ยม
เข้าปีกตีข้างลำตัว
จับหัวตีแผ่นหลัง
แบกเข่าจิกสันหลังตีผ่าก้น
แผลที่กล่าวมานี้เป็นอันตราย เพราะเป็นแผลที่เจ็บปวด กล้ามเนื้อด้านใน ถ้าโดนตีข้างลำตัว ตีแผ่นหลัง จะทำให้ไก่ที่โดนตีตัวแสดงให้เห็น โดยการเคลื่อนตัวยาก ลำบาก
วิธีแก้
- ใช้น้ำอุ่นประคบ บริเวณที่โดนตี จะคลายความเจ็บปวดลงได้
- ใช้ใบพลูสดพันผ้า ใช้น้ำลาดลงกระเบื้องที่กำลังร้อนประคบ ใช้ฝ่ามือคลึงเบาๆ
- ใช้เครื่องรมให้ความอบอุ่นบริเวณลำตัว เพื่อไม่ให้ไก่ตัวเย็น
แผลโดนตีดุมปีก เป็นแผลเจ็บลึกเหมือนแผลตีตัว จะแสดงอาการปีกตก ดุมปีกจะเป็นผื่น แดงช้ำ บินไม่ถนัด ถ้าโดนมากๆ จะบินขึ้นตีคู่ต่อสู้ไม่ได้
วิธีแก้
ใช้น้ำอุ่นประคบที่บริเวณโคนปีก ใช้ใบพลูสดพันผ้า ใช้น้ำลาดกระเบื้องที่กำลังร้อนประคบให้อุ่นๆ ใช้ฝ่ามือคลึงเบาๆ อาการเจ็บปวดจะลดลงได้
ไก่โดนตีหน้าคอ จะมีอาการคอหด มีอาการบวมใหญ่เหมือนไส้กอก จะชูคอสู้กับคู่ต่อสู้ยาก
วิธีแก้
แก้โดยเอาผ้ากราดน้ำใช้พันด้วยใบพลู ใช้น้ำลาดกระเบื้องที่กำลังร้อนประคบ แล้วนวดคลึงเบาๆ ใช้มืออีกด้านหนึ่งจับคอยกดยึดให้ตรง แล้วนวดบริเวณหน้าคอ จะบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
ไก่โดนตีสันคอ จะมีอาการ คอโก่ง ยกคอไม่ขึ้น
วิธีแก้
ใช้น้ำอุ่นประคบ นวดบริเวณสันคอ หลายๆครั้งด้วยกระเบื้องพออุ่นๆ อย่าให้ร้อนเพราะจะทำให้ผิวไก่ไหม้ ใช้มืออีกด้านหนึ่ง ชูคอไก่ขึ้น ใช้ใบพลูลาดกระเบื้องพออุ่นๆ นวดเบาๆ จะทำให้ชูคอสู้คู่ต่อสู้ได้อีก
ไก่โดนตีบ้องหู แผลนี้ไก่จะแสดงอาการเจ็บปวด เพราะหูกับท้ายทอยอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน บางครั้งไก่จะออกปากร้องเพราะเจ็บปวดมาก จะทำให้หูและท้ายทอย บวม ตรึง คอเอียงไปทางด้านใด ด้านหนึ่ง จะทำให้ไก่เสียหลัก เสียศูนย์ เข้าเชิงชนไม่ถูก จึงเป็นโอกาสให้คู่ต่อสู้ตี ซึ่งจะนำมาซึ่งความพ่ายแพ้
วิธีแก้
ใช้ผ้ากราดน้ำชุบน้ำอุ่นนวด คลึง บริเวณหู ท้ายทอย หลายๆครั้ง แล้วปล่อยให้ไก่ยืนหรือเดิน เพื่อดูอาการว่าปกติหรือไม่ หากไก่ปกติแล้วนำมาลงกระเบื้องพออุ่นๆ คลึงนวดเบาๆอีกครั้ง แล้วใช้ผ้าคลุมหน้ารมควันให้ไก่พักผ่อน
ไก่โดนตีคางหรือลูกกระเดือก แผลนี้สำคัญ เพราะจะทำให้คอบวม ทำให้หายใจลำบาก จะแสดงอาการหายใจยาก มีเสียงดังในลำคอ หนีได้ง่ายๆ
วิธีแก้
แก้โดยเอาขนไก่ยอนคอ เอาเสลดหรือน้ำลายออกให้หมด ใช้น้ำมันพืชใส่ขนไก่แหย่ลงไปในลำคอค่อยๆ แล้วหมุนเบาๆ และใช้เนื้อมะเขือเทศ หรือส้มเขียวหวานให้กิน เพื่อให้ชุ่มคอ สดชื่น หายใจสะดวก ส่วนแผลบริเวณข้างนอก ให้ใช้ผ้ากราดน้ำชุบน้ำอุ่นมาประคบนวดเบาๆ

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วิธีดูลักษณะไก่เก่งตอนเล็กๆ

การดูลักษณะไก่เก่งตอนเล็กๆ
1.ลูกไก่ตัวที่ชอบแตกฝูง หมายถึง ลูกไก่ตัวที่ไม่ค่อยอยู่กับฝูง เวลาแม่ของมันพาไปคุ้ยเขี่ยหากิน มันมักจะแยกตัวออกไปหากินห่างจากลูกของมัน เพราะโดยปกติแล้วลูกไก่เล็กๆมันจะคอยติดตามแม่ตลอดเวลา ยิ่งมีอายุมากขึ้น มันจะแยกตัวออกไปหากินห่างแม่ยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าลูกไก่ตัวนั้นมีจิตใจเข้มแข็งไม่กลัวใครตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะของไก่เก่งทุกตัว ที่มีจิตใจเป็นนักสู้ไม่กลัวใคร ข้อควรระวัง ลูกไก่ที่แยกตัวออกไปหากินห่างแม่ของมัน มักจะไม่รอดปากเหยี่ยว ปากกาและสัตว์ร้ายอื่นๆ เช่น หมา แมว ในกรณีที่ปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ
2.ลูกไก่ตีหย่าแม่ ลูกไก่ชนโดยทั่วไป เมื่อมีอายุได้ 2-3 เดือน มันจะเริ่มตีกันเพื่อแย่งกันเป็นจ่าฝูง หลังจากนั้นแม่ของมันจะทิ้ง เราเรียกว่า ตีหย่าแม่
ข้อสังเกต เกี่ยวกับลูกไก่สายเลือดไทย พม่า และ เวียตนาม มีดังนี้
ลูกไก่สายเลือดไทย มักจะตีอย่าแม่กันนาน บางตัวถึงกับหนังหัวขาด หัวปีกขาด และสู้กันหลายวัน ดังนั้นต้องคอยระวังและจับแยกขังเดี่ยวสัก 1-2 อาทิตย์ ก็จะเลิกกันไปเอง
ลูกไก่สายเลือดพม่า มักจะตีหย่าแม่กันไม่นาน ส่วนมากจะตีกันครั้งเดียวก็เลิก และมักจะตีกันหน้าตาบวม จับขังแยกสัก 1-2 วัน พอแผลระบมก็จะแพ้กันไปเอง
ลูกไก่สายเลือดเวียดนาม (ไซง่อน) มักจะตีหย่าแม่กันไม่นานเหมือนกับไก่พม่า แต่ปากคม มักจะจิกกันจนหนังหัว หนังคอต้องคอยเย็บ
ลูกไก่ตัวใดที่ไม่ค่อยสู้ไก่ หรือสู้ไม่นานก็ยอมแพ้ ลูกไก่ตัวนั้นเมื่อโตขึ้นชั้นเชิงฝีตีนอาจมีตามสายพันธุ์ แต่จิตใจไม่ค่อยเต็มร้อย และมักจะเป็นไก่ที่สมบูรณ์ สวยงาม เพราะการเจริญเติบโตไม่หยุดชะงักเหมือนตัวที่ตีกันมากๆ และไม่ค่อยมีรอยตำหนิบริเวณหัวและหัวปีก ทั้งนี้ลูกไก่คอกหนึ่งๆจะไม่เก่งทุกตัว ด้วยเหตุนี้นักเลงไก่จึงนิยมเพาะไก่เอง เพราะได้รู้เหล่า รู้สายพันธุ์ รู้ลีลาชั้นเชิงในการชนของมันตั้งแต่ปู่ย่าตายาย และยังรู้นิสัยใจคอมันมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ใช่ดูแต่ความสวยงาม หรือลักษณะโหงวเฮ้งดี เพียงอย่างเดียว
อีกประการหนึ่ง การเพาะไก่เองยังได้รู้นิสัยใจคอของมัน ซึ่งแต่ละตัวไม่เหมือนกัน ตลอดจนความสมบูรณ์ของร่างกาย ไก่ที่ขี้โรคมาตั้งแต่เล็กๆโตขึ้นจะไม่เก่ง แม้ว่าจะมีลีลาชั้นเชิงดีขนาดไหนก็เป็นไก่เก่งไม่ได้ เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ไก่เก่งต้องสมบูรณ์ทั้งร่างกายจิใจและฝีตีน
ลูกไก่ตัวใดที่มักจะสู้กับไก่ในฝูงทุกตัว เที่ยวเกะกะระรานเขาไปทั่ว ตีตัวหนึ่งแพ้แล้วจะไปตีอีกตัวหนึ่งจนชนะเขาหมดกลายเป็นจ่าฝูง ไก่ตัวนั้นถ้าอยู่รอดไม่แคระแกร็นหรือพิการไปเสียก่อน รับรองได้ว่าไก่ตัวนั้นมักเป็นไก่เก่ง ถ้ามีลูกไก่ที่กล่าวมา ให้รีบแยกออกมาขังเดี่ยวประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็จะเลิกตีกันไปเอง มิฉะนั้น ลูกไก่ตัวนั้นอาจจะพิการและเสียไก่ไปตั้งแต่เล็กๆ
ในการไปหาซื้อไก่ตามชนบท ที่มีไก่หนุ่มเป็นฝูงๆนั้น ให้เลือกซื้อไก่ตัวที่เป็นจ่าฝูงและมีรอยถูกตีแถวหัว หน้าตา โดยเฉพาะหัวปีก ถ้ามีรอยจิกยิ่งแสดงให้รู้ว่าไก่ตัวนั้นเชิงชนหัวลึก เวลาถูกกอดไม่หงายไพล่จึงถูกจิกหัวปีก ซื้อได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง
ข้อสังเกตอีกอย่าง ไก่ที่เป็นจ่าฝูง มักมีขนาดเล็กกว่าไก่ตัวอื่นๆในฝูง เพราะในช่วงเล็กๆ ตีกับเขาไปทุกตัวเลยแกร็น ส่วนตัวใดที่สวยงามรอยโต หน้าตาไม่มีรอยขีดข่วน แสดงว่าไก่ตัวนั้นตอนเล็กๆ ใจไม่ถึงไม่ค่อยสู้ใคร เอาแต่กินจึงโตกว่าเพื่อน
3. ลูกไก่ตัวใดมักจะสู้ไก่ที่ใหญ่กว่า ไม่กลัวหมา กลัวแมว หรือไม่ค่อยกลัวอะไร แสดงให้รู้ว่าไก่ตัวนั้นใจเต็มร้อย โตขึ้นต้องเป็นไก่ที่มีจิตใจเป็นนักสู้ สู้ไม่ถอย ดูแลให้ดีอย่าให้ตีกับไก่ใหญ่ อาจเสียไก่ได้
4. ลูกไก่ที่เวลาเราจับมักดิ้น โดยเฉพาะเวลาจับปาก จับคอ จับคาง จับตุ้มหู มักจะดิ้นสะบัดหลุด หรือจิกเจ้าของ หรือคนจับ แสดงให้เห็นว่า ไก่ตัวนั้นมีจิตใจเป็นนักสู้ ไม่ยอมอะไรง่ายๆ มีความพยายาม เวลาตีจะเป็นไก่ไม่ยอมคู่ต่อสู้ ถือว่าจิตใจใช้ได้ หนีไม่เป็น
5. ลูกไก่ที่มักจะขันตั้งแต่อายุยังน้อย คือ อายุประมาณ 4-5 เดือน เรียกว่าแก่แดด มักเป็นไก่เก่งใจเกินร้อย คือ เป็นลูกไก่ที่พยายามจะเป็นไก่ใหญ่ หรือมีจิตใจเกินตัว เวลาสู้กับคู่ต่อสู้เป็นไก่ที่มีจิตใจทรหดอดทนหนีไม่เป็น
ลักษณะพฤติกรรมเด่นๆ ดังที่กล่าวมา มันเป็นเรื่องพันธุกรรม ที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดของมัน หรือยีนส์ที่แสดงออกถึงเทือกเถาเหล่ากอ แต่จะมีความเด่นมากน้อยแตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนกันทุกตัว บางตัวมีมาก บางตัวมีน้อย และมีจุดเด่น จุดด้อยไม่เท่ากัน บางตัวจิตใจไม่เต็มร้อยแต่รูปร่างอาจสวยงาม บางตัวรูปร่างไม่สวยงามแต่มีจิตใจเต็มร้อย
ความลับของไก่เก่ง ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ามันอยู่ในกมลสันดานของมันเองมาตั้งแต่เล็ก ทำไมไก่บางตัวมีลักษณะดีสวยงาม ทั้งใบหน้า รูปร่าง เกล็ด แข้งดี ถูกต้องตามตำราโหงวเฮ้งไก่เก่ง แต่ทำไม? จึงตีไม่เก่ง ไม่มีความพยายามในการต่อสู้ ส่วนใหญ่แล้วเพราะใจมันไม่สู้ ใจไม่ถึง พอถูกตีเจ็บ หรือถูกโต้เจ็บมักจะถอดใจง่าย ผิดกับบางตัว ยิ่งเจ็บยิ่งสู้ ยิ่งมีมานะ อาฆาต พยายามตีคู่ต่อสู้ให้เจ็บกว่า นอกจากนี้ไก่เก่งต้องเป็นไก่ฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบในเชิงชนของมัน รู้จักหลบหลีกแก้เชิง หรือแก้ทางของคู่ต่อสู้ได้ สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถฝึกสอนมันได้ แต่มันจะมีของมันเอง
ไก่เก่งทุกตัว มักจะมี คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง ไก่บางตัวอาจมีสติปัญญาเป็นเลิศเหนือคุณสมบัติอื่นๆทั้งหมด หรือไก่เชิงซึ่งจะมีลีลาชั้นเชิงในการต่อสู้เป็นเลิศ แต่คุณสมบัติในด้านความทรหดอดทนอาจจะน้อย ไก่บางตัวอาจจะไม่ค่อยฉลาดแต่จะมีคุณสมบัติในด้านความทรหดอดทนเป็นเลิศ มีพลังจิตหรือแรงฮึดสู้ได้จนลมหายใจสุดท้าย เรียกว่า ยอมตายคาสังเวียน
แหล่งที่มา: ฟาร์มไก่ดอทคอม
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สมุนไพร รักษาอาการหวัดไก่ชน

สมุนไพร รักษาอาการหวัดของไก่ชน
ขนานที่ 1 
ส่วนผสมของตัวยาต่างๆ 
ยาฉุน
1.ยาฉุน ดอกมะลิแห้ง ผิวมะกรูดตากแห้ง อย่างละ 1ส่วน และ พิมเสน การบูร อย่างละเล็กน้อย การปรุงยาเอาตัวยามารวมเข้าด้วยกัน บดให้ละเอียดเป็นผงเก็บเอาไว้ในขวด ปิดฝาแน่น เก็บเอาไว้ใช้ได้นานๆ
มะลิแห้ง
ขนาดการใช้ เอามาใส่ในสำลี ให้ไก่ดม สูดเอาไอระเหยของตัวยาเข้าไป โดยเอาอังไว้ตรงจมูกไก่พอประมาณ วันละหลายๆครั้ง
สรรพคุณ รักษาอาการเป็นหวัดของไก่ได้ดีมาก นอกจากไก่จะใช้ได้ดีแล้ว คนเราก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน


ขนานที่ 2 
ส่วนผสมของตัวยาต่างๆ
หัวหอมแดง ใบมะขาม ใบส้มป่อย ขมิ้นผง ดินสอพอง พิมเสน เอามาอย่างละ 1 ส่วน
การปรุงยา ขนาดการใช้ สรรพคุณ เหมือนกันกับขนานที่ 1
แหล่งที่มา : ไก่ชนดอทคอม